คุณสามารถใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายของคุณใน LinkedIn เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ในโลกออนไลน์ ให้ดูมีความเป็นมืออาชีพได้ จะทำได้อย่างไรมาหาคำตอบไปด้วยกัน
การสร้างโปรไฟล์ของคุณใน LinkedIn หรือเพจใด ๆ คือหัวใจสำคัญของการมีตัวตนแบบมืออาชีพในโลกออนไลน์ แต่ในทุก ๆ วันมีข่าวสาร บทความ และการอัปเดตเทรนด์ต่าง ๆ มากมายหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในหน้าฟีด แล้วคุณจะโดดเด่นได้อย่างไร?
คุณจะต้องหาวิธีหยุดคนที่เลื่อนผ่านหน้าโปรไฟล์คุณให้ได้ โดยการใช้ความเป็นศิลปะจากภาพสต็อกเพื่อสร้างความประทับใจให้กับทุกคนไม่ให้ลืมโปรไฟล์คุณ
ในครั้งนี้เราจะมาสำรวจแพลตฟอร์ม LinkedIn ว่าภาพสต็อกจะมามีบทบาทช่วยเหลือคุณอย่างไร เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับโปรไฟล์และตัวตนของคุณ
ทำความเข้าใจเรื่องการใช้ภาพสต็อกบน LinkedIn และผลกระทบที่จะตามมา
การสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะใช้งานส่วนตัวหรือสำหรับองค์กรบริษัท คือเรื่องที่ท้าทายเพราะคุณต้องผสมผสานโปรไฟล์ส่วนตัวและความเป็นองค์กรไปด้วยกัน ภาพสต็อกเป็นวิธีเพิ่มความน่าสนใจให้กับโปรไฟล์และโพสต์ของคุณ โดยไม่ต้องใช้ภาพถ่ายของคุณเองหรือไปจ้างช่างภาพที่มีค่าใช้จ่ายราคาแพง
คลังภาพสต็อกมีตัวเลือกให้คุณใช้ภาพหลากหลาย คุณสามารถหาภาพที่เหมาะสมกับคุณได้เพียงไม่กี่คลิก ภาพเหล่านั้นจะช่วยยกระดับโปรไฟล์ของคุณและเติมเต็มรายละเอียดในส่วนที่สำคัญได้
โปรไฟล์ระดับองค์กรบริษัทที่สมบูรณ์ จะถูกเพิ่มการมองเห็นหน้าเพจขึ้น 30% และในทุก ๆ โพสต์ภาพจะมีส่วนช่วยสร้างจุดสนใจพร้อมยอดการมีส่วนร่วมได้ง่าย ซึ่งโพสต์ที่มีภาพจะได้รับการสนใจมากกว่าโพสต์ที่มีแต่ข้อความถึง 2 เท่า
เมื่อคุณใช้ภาพสต็อกร่วมกับภาพถ่ายใน LinkedIn คุณสามารถขยายการเข้าถึงได้โดยที่ไม่สูญเสียทรัพยากรบริษัทมากจนเกินไป แต่หัวใจหลักก็คือคุณต้องมีสมดุลระหว่างความเป็นมืออาชีพและความสมจริงในทุก ๆ โพสต์ ไม่เล่นหรือหลอกลวงจนเกินไป
ใช้ภาพสต็อกใน LinkedIn ได้ด้วยเหรอ?
ได้! คุณสามารถใช้ภาพสต็อกวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ด้วย ตราบใดที่คุณได้รับมอบหมายให้ทำ หลังจากที่คุณซื้อสิทธิ์การใช้งานภาพสต็อกเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะได้รับสิทธิ์ให้ใช้งานในที่ต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์ม LinkedIn
โดยภาพที่คุณซื้อสิทธิ์มานั้นถูกเรียกว่า Royalty-free หมายความว่าคุณมีสิทธิ์อย่างชอบธรรมในการใช้ภาพแบบเชิงพาณิชย์ตามข้อตกลงที่กำหนด ซึ่งมีผลบังคับใช้ตราบใดที่คุณไม่ได้ละเมิดใช้สิ่งเหล่านั้นในลักษณะใดก็ตามที่ขัดแย้งกับข้อตกลงในแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น ใน ข้อตกลงการใช้งาน LinkedIn User Agreement กล่าวว่า “เราต้องการให้โพสต์ของสมาชิกทุกท่านมีความถูกต้องและไม่ละเมิดสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิ์อื่น ๆ ของบุคคลที่สาม” นั่นหมายความว่าคุณต้องเข้าใจสิทธิ์การใช้งานของคุณก่อนจะโพสต์ และหลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพในลักษณะที่อาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อื่นนั่นเอง
วิธีเลือกภาพสต็อกสำหรับใช้ใน LinkedIn
เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ภาพสต็อกใน LinkedIn มาดูกันว่าเราสามารถใช้กับวิธีการใดได้บ้าง
Profile Photo
ภาพถ่ายคือการนำเสนอตัวตนของคุณ และควรเป็นภาพที่ไม่ผ่านการตกแต่งมากมาย ต้องมีคุณภาพสูง ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะถ่ายบริเวณครึ่งบน (Headshot) แต่ถ้าคุณไม่มีภาพมุมนี้ ให้ลองเลือกภาพจากสต็อกมาทำเป็นฉากหลังแทน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
Cover Photo
ภาพแบนเนอร์ประจำโปรไฟล์ของคุณจะทอดยาวผ่านหน้าจอทุกคน เป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกที่คนเข้ามาเยี่ยมชมโปรไฟล์จะต้องเห็น แสดงความเป็นตัวตนของคุณหรือความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ คุณสามารถใช้ภาพสต็อกพร้อมข้อความหรือกราฟิก ผสมผสานกันในส่วนนี้ได้
Summary
คุณสามารถบอกเล่าเรื่องราวในสายอาชีพของคุณได้ที่นี่ เป็นเหมือนจุดขายของคุณให้ทุกคนรู้ว่าคุณมีที่มาอย่างไรและให้บริการอะไรบ้าง รูปภาพที่วางไว้ส่วนนี้จึงต้องมีความหมายส่งเสริมประเด็นที่คุณเขียน เพื่อดึงดูดผู้อ่านอย่างรวดเร็ว
Experience
เน้นส่วนสำคัญในเส้นทางสายอาชีพของคุณ ด้วยการอัปโหลดภาพเข้าไปเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็น ภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ อีเวนต์ที่ไป หรือความสำเร็จที่เกี่ยวกับตำแหน่ง
Activity
ทุกสิ่งที่คุณโพสในหน้ากิจกรรมจะต้องส่งเสริมโปรไฟล์ของคุณ ภาพที่มีคุณภาพสูงก็สามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือเช่นกัน กิจกรรมที่คุณโพสต์ควรมีความคมชัดเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจว่าคุณเคยทำอะไรมาบ้าง
ขนาดภาพและสัดส่วนของ LinkedIn
ปรับปรุงแก้ไขภาพของคุณให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม LinkedIn คือสิ่งสำคัญ เพื่อให้ภาพสต็อกของคุณเข้าใจง่าย ไม่อย่างนั้นอาจเกิดภาพแตก ภาพเบลอหรือตกขอบ ทำให้แบรนด์ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ณ ปัจจุบันขนาดของภาพที่เหมาะสมกับการใช้ใน LinkedIn มีดังนี้
- Profile photo: 400 x 400 pixels (1:1 aspect ratio)
- Cover photo: 1584 x 396 pixels (4:1 aspect ratio)
- Summary: 590 x 296 pixels (2:1 aspect ratio)
- Experience: 250 x 250 pixels (1:1)
- Shared images: 1200 x 627 pixels (1.91:1 aspect ratio)
- Sponsored content: 1200 x 627 pixels (1.91:1 aspect ratio)
- Carousels: 1080 x 1080 pixels (1:1 aspect ratio)
เลือกภาพให้เหมาะสมกับองค์กร
ถ้าในโปรไฟล์ของคุณมีแต่ภาพธรรมดา ๆ หรือภาพส่วนตัวเยอะเกินไป จะเสี่ยงทำให้ผู้คนที่เห็นเลื่อนผ่านไปได้ง่าย ๆ ให้โฟกัสที่ภาพสต็อกคุณภาพสูงเสียเลยดีกว่า เพื่อความพิเศษในการมองเห็น ลองถามตัวคุณเองว่าภาพแบบไหนถึงจะมีเอกลักษณ์และแสดงถึงตัวตนองค์กรได้ดีที่สุด?
ให้ลองคิดเรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรว่าภาพใดที่เหมาะสม เช่น สมมุติคุณอยู่ในบริษัทท่องเที่ยว ให้เลือกภาพที่เกี่ยวกับกิจกรรมการเดินทาง ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ได้ดีกว่าภาพเครื่องบินและกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
การทำแบรนด์ของคุณมีเป้าหมายใด
LinkedIn มีเป้าหมายเพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของคุณมีความเป็นมืออาชีพ คุณต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าแบรนด์ของคุณคืออะไรและเป็นอย่างไร รูปภาพที่ควรโพสต์มีอะไรบ้าง
สมมุติว่าคุณทำงานให้บริษัทการดูแลสุขภาพสำหรับดูแลผู้ป่วย คุณสามารถเลือกภาพสต็อกที่แสดงให้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มีปฏิสัมพันธ์อย่างเห็นอกเห็นใจกับผู้ป่วย วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชม ทำให้พวกเขามองเห็นค่าในแบรนด์ของคุณ
นอกจากนั้นคอนเทนต์จะต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ เพื่อให้โปรไฟล์และโพสต์ถัดไปจากนี้ได้รับการจดจำ แต่ถ้ายังนึกอะไรไม่ออกเรามี Small Business Brand Kit เพื่อช่วยคุณพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความมืออาชีพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ออกแบบ
วิธีสร้างยอดการมีส่วนร่วมด้วยภาพสต็อกใน LinkedIn
หลังจากที่คุณเลือกภาพสต็อกเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเสริมประสิทธิภาพให้แก่รูปภาพก่อนอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์ม ด้วยเทคนิคต่อไปนี้
สร้าง Carousels
ถ้าอยากบอกเล่าเรื่องราวระดับมืออาชีพของคุณด้วยข้อมูลเชิงลึกในลักษณะรูปภาพ ให้ลองใช้ภาพสต็อกกับฟีเจอร์ carousels สิ่งนี้จะช่วยสร้างยอดคลิกได้ดีกว่ารูปแบบอื่น ๆ
ตามเทรนด์
ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าเทรนด์ต่อไปคุณจะต้องโพสต์อะไร ให้ลองตามเทรนด์โดยอ่านจาก LinkedIn News จากนั้นหาภาพสต็อกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมาเป็นตัวเล่าเรื่อง
ครอบคลุมและเกี่ยวข้อง
อย่าลืมใส่คำอธิบายที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกับภาพที่คุณโพสต์ ให้ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันทั้งภาพและข้อความ เพื่อไม่ให้การสื่อสารผิดประเด็นไปจากที่คุณคิด
ใส่ความคิดสร้างสรรค์
เติมเต็มงานกราฟิกให้สะดุดตาด้วยฟอนต์และฟิลเตอร์ หรือองค์ประกอบจากแบรนด์ใด ๆ เพื่อให้ภาพใน LinkedIn มีความสวยงาม สิ่งนี้จะทำให้ทุกคอนเทนต์ที่คุณแชร์หรือโพสต์มีเอกลักษณ์ ส่งเสริมความเป็นมืออาชีพให้โปรไฟล์ มีแต่ Win กับ Win
ใส่ Call-to-Action
หลังจากที่ทุกคนเข้ามาอ่านโพสต์คุณแล้ว อย่าลืมบอกกับพวกเขาด้วยว่าต้องทำอะไรต่อหลังจากนั้น หรือเชิญชวนให้ทุกคนแชร์คอนเทนต์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโพสต์ เป็นต้น
บทความโดย : Best Practices: How to Choose LinkedIn Photos
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24