คุณ Oaklee Thiele ศิลปินผู้พิการที่จะมาพูดถึง The Create Fund อาชีพเกิดใหม่จาก Shutterstock ว่าเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเธอได้อย่างไร
Oaklee Thiele ศิลปินและนักเคลื่อนไหวด้านความพิการ ผู้ชอบที่จะทำงานจากเตียงของเธอ “มันช่วยให้ฉันอยู่กับปัจจุบันมากขึ้นและคิดได้ชัดเจนขึ้น” เธอกล่าว เธอได้สร้างผลงานที่มีชีวิตชีวามากมายจากเตียงนอนของเธอ เพื่อเข้ามาเติมเต็มบัญชี Shutterstock ที่กำลังเติบโตของเธอ ซึ่งเธอได้ให้ความสำคัญกับชีวิตและความรักของผู้พิการเช่นตัวเธอเอง ซึ่งมักถูกกีดกันจากการเป็นตัวแทนเพื่อพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ Mainstream
“เมื่อก่อนฉันเคยปกปิดความจริงที่ว่าฉันทำงานได้หลายอย่างจากบนเตียง ถ้ามีคนมาสัมภาษณ์ที่บ้านหรือสัมภาษณ์ผ่านออนไลน์ ฉันจะนอนอยู่บนเตียงก่อนเวลา 5 นาที แล้วย้ายไปยังรถเข็น จากนั้นสวมแจ็กเก็ตสวย ๆ และสัมภาษณ์จากโต๊ะทำงาน สิ่งนี้มันทำให้ฉันเจ็บปวดมากและมันไม่ใช่ตัวจริงของฉันเลย’
“ฉันจึงคิดว่าการถ่ายทอดภาพของศิลปินผู้พิการที่ทำงานอยู่บนเตียง หรือให้สัมภาษณ์บนเตียงคือสิ่งที่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ ให้ทุกคนรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้มีจริง”
เตียงของคุณ Thiele อยู่ในอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กแบบ 1 ห้องนอนในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ โดยอยู่รวมกับไมเคิลผู้เป็นสามี และโคโค่สุนัขแพทย์แสนรู้ที่คอยช่วยเหลือเธอ
“ที่นี่เราอยู่อาศัยแบบเรียบง่ายและอบอุ่น ฉันใช้เวลาช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาย้ายกลับมาที่บ้านเกิด เพราะอาการพิการของฉันเริ่มรุนแรงขึ้น ดังนั้นฉันและสามีจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้อพาร์ตเมนต์หลังเล็ก ๆ นี้ให้ความรู้สึกปลอดภัย”
ภายในบ้านพวกเขาแขวนไฟคริสต์มาสไว้เหนือเตียง วางดอกไม้และเทียนไว้ตามขอบหน้าต่าง และดัดแปลงของงานแต่งที่ทำด้วยมือให้เป็นงานศิลปะบนผนัง
คุณ Thiele ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Tethered Cord Syndrome (TCS) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางระบบประสาทที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังในฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 และกลับบ้านในช่วงฤดูร้อนปี 2022
อาการดังกล่าวทำให้เขาสูญเสียประสาทการทำงานของขา เส้นประสาทเสียหายและปวดเรื้อรัง รวมถึงอาการอื่น ๆ แทรกซ้อนอีกมากมายจนทำให้เธอต้องออกจากมหาวิทยาลัยศิลปะ Cooper Union คณะจิตรกรรมที่กรุงนิวยอร์กแล้วกลับมาที่สปริงฟิลด์
จากนั้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 เธอได้รับทุนผ่าน Create Fund ของ Shutterstock ซึ่งพยายามให้การสนับสนุนทางการเงินและวิชาชีพแก่ศิลปิน ในขณะเดียวกันก็สอนพวกเขาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพสต็อกและช่วยให้พวกเขาเริ่มต้นอาชีพที่สร้างรายได้แบบ Passive Income
“การได้รับรางวัลโปรแกรม Create Fund จาก Shutterstock คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉัน เงินเหล่านี้ช่วยเหลือให้ฉันซื้อของที่จำเป็นในชีวิตมาใช้ได้ และยังมีเวลาให้ฉันค้นหาแนวทางศิลปะและสไตล์การวาดภาพประกอบของฉันอย่างลึกซึ้ง ช่วงเวลาที่หมดไปกับการทดลอง ทดลองเทคนิควาดภาพประกอบต่าง ๆ ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ฉันในฐานะนักวาดภาพอย่างมาก
ตลอดโปรแกรมฉันได้ทำงานร่วมกับ Steven Russell ผู้เป็นคนดูแลฉันจาก Shutterstock ซึ่งช่วยให้ฉันทำงานได้ตามเป้าหมาย ให้การสนับสนุนและเสนอแนะสิ่งที่สร้างสรรค์เกี่ยวกับงานให้ฉัน อีกทั้งยังสรุปเนื้อหาต่าง ๆ และคำติชมของลูกค้าให้ฉันฟัง เพื่อให้ฉันเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวงการสต็อก
เป็นการแนะนำวงการสต็อกที่เหลือเชื่อมาก ๆ ฉันไม่คิดว่าฉันจะสมัครบัญชีช่างภาพของ Shutterstock หากไม่ใช่เพราะ The Create Fund ฉันคงพลาดโอกาสที่น่าอัศจรรย์นี้ สมัครก็ฟรีแถมสร้างรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยภาพวาดของฉันมาจุนเจือครอบครัวได้จากบนเตียง”
Shutterstock: อะไรทำให้คุณอยากมาเป็นศิลปินตั้งแต่แรก?
Oaklee Thiele: ตอนฉันอายุ 6 ขวบ ปู่ของฉัน Jacob Neupaur เริ่มสอนฉันวาดรูป เขาเป็นคนที่เก่งมาก ๆ และประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านศิลปะและดนตรี เขาคือปรมาจารย์การวาดภาพเหมือนจริง เล่นดนตรีได้ 21 ชิ้น และเป็นผู้ก่อตั้ง Neupauer Convervatory of Music
ตอนอยู่กับท่าน ฉันได้รับการสอนให้รู้จัก “มองและสังเกต” ฉันเคยนั่งบนตักของเขาแล้วเขาจะชี้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว เงาที่เกิดขึ้นรอบ ๆ แล้วเราจะเริ่มสเก็ตช์สิ่งที่เราเห็นหลังจากนั้น เราเคยลองวาดเลียนแบบภาพจากการ์ดคริสต์มาส จากนั้นแลกเปลี่ยนกันเติมส่วนที่ขาดหายไปในนั้น
หลังจากท่านเสียชีวิต ฉันก็เข้ามาสู่วงการศิลปะคล้ายกับสิ่งที่ท่านอยากให้ฉันเป็น ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปเสียแล้ว สำคัญพอ ๆ กับการกินหรือการนอน มันช่วยให้ฉันรู้สึกสงบอย่างมาก
ศิลปะเกี่ยวข้องกับฉันเสมอมานับจากนั้น ทำให้ฉันได้โอกาสมากมาย ทั้งได้เดินทาง ได้รายได้มั่นคง รวมถึงได้พบเพื่อนร่วมงานที่น่าทึ่ง
Shutterstock: มีใครที่คอยให้ความช่วยเหลือคุณบ้าง ณ ตอนนี้?
Oaklee Thiele: สามีของฉัน Michael Yuknalis เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันทั้งทางอารมณ์และทางร่างกาย เขาตื่นเต้นเสมอที่ได้ยินฉันคุยโม้โอ้อวดเกี่ยวกับงานศิลปะ และเขาฟังอย่างตั้งใจแม้ว่าโลกศิลปะจะแปลกใหม่สำหรับเขา เขาจะอยู่ฟังเสมอเพื่อเป็นดั่งกระดานความคิดของฉันสำหรับไอเดียใหม่ ๆ และเขาคือคู่หูความคิดที่ดีที่สุดของฉัน
การฝึกฝนงานศิลปะของฉันเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Tethered Cord Syndrome (TCS) และเมื่ออาการลุกลาม ฉันเริ่มสูญเสียความสามารถในการเดินหรือขับรถ หมายความว่าฉันไม่สามารถหยิบวัสดุจากร้านขายงานศิลปะได้อย่างอิสระอีกต่อไป และไม่สามารถเดินไปรอบ ๆ สตูดิโอโชว์งานศิลปะได้อีก
ไมเคิลช่วยฉันทุกอย่างตั้งแต่หาวัสดุ ช่วยพาเดินในสตูดิโอ หรือเตรียมงานให้ถ้าฉันทำงานจากบนเตียง และขับรถพาฉันไปดูนิทรรศการ ฉันโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกคนรอบตัว และได้รับการสอนจากครูที่มีความสามารถมากมาย
ไม่ว่าจะมอบโอกาสในการเยี่ยมชมสตูดิโอ การสอนพิเศษ ตอบอีเมลฉันกลางดึก หรือให้คำปรึกษาเรื่องความพิการของฉัน คุณครูคนนี้จะช่วยฉันเสมอ ถึงแม้ฉันจะมีความสนใจเรื่องศิลปะมาอย่างยาวนาน แต่คุณครูท่านนี้มอบความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้ ให้กำลังใจ และอุปกรณ์สนับสนุนมากมายที่ฉันไม่มีวันหามาได้
Shutterstock: อะไรเป็นแรงผลักดันให้คุณทำงานศิลปะ แล้วมันมีอิทธิพลต่องานของคุณอย่างไร?
Oaklee Thiele: ตอนที่โรคกำลังลุกลาม ฉันเริ่มต้องการความช่วยเหลือในด้านรถเข็น เก้าอี้อาบน้ำ และอุปกรณ์ช่วยเสริมเท้า ทำให้ฉันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจากชีวิตปกติกลายเป็นชีวิตผู้พิการ
ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมีการซ้อมหนีไฟแล้วพวกเขาบอกฉันว่า พวกเขาไม่มีแผนการหนีไฟสำรองให้กับผู้พิการ แนะนำให้รอที่บันไดเพื่อรอความช่วยเหลือ เพราะเหตุนั้นฉันจึงตัดสินใจทำงานเกี่ยวช่วยสังคม เพื่อบอกต่อความสำคัญของการหนีไฟบริเวณบันได ให้มีการติดตั้งระบบเพื่อช่วยเหลือผู้พิการ
ศิลปะเป็นเครื่องมือของฉันในการประมวลผลสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวและช่วยให้ฉันมีแรงใจต่อสู้กับโรคเรื้อรัง แถมยังเป็นแรงผลักดันให้ฉันสู้เพื่อชุมชนผู้พิการต่อไป
Shutterstock: งานของคุณต้องเกี่ยวกับความพิการตลอดเลยเหรอ? ทำไมงานส่วนใหญ่ของคุณถึงมีความเกี่ยวข้องกับความพิการ
Oaklee Thiele: ใช่ เพราะความพิการคือพื้นฐานของความเป็นฉัน ความพิการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของฉันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในที่สาธารณะ สตูดิโอ โรงเรียน หรือแม้แต่สถานพยาบาล ซึงแตกต่างจากสมัยที่ฉันยังไม่พิการมากมาย
ทุกวันนี้ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเข้าไม่ถึงบางสิ่ง ถูกกีดกัน และการเลือกปฏิบัติ ทำให้ผลงานของฉันออกมาจากชีวิตจริงที่เผชิญอยู่ทุกวัน
Shutterstock: การทำงานเกี่ยวกับความพิการยากหรือเหนื่อยบ้างไหม?
Oaklee Thiele: ตรงกันข้ามเลยเพราะฉันรู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับการได้ทดลองวิธีใหม่ ๆ ในการแสดงภาพร่างกายที่พิการผสมผสานกับอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนไหว แต่สุดท้ายก็ต้องเบื่อเหนื่อยกับสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมแบบนี้ เหนื่อยง่ายและมีขีดจำกัดทางร่างกายบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้
การเป็นศิลปินพิการ โอกาสการได้รับการศึกษา การได้ร่วมงานกับศิลปิน หรือได้เข้าไปจัดงานแสดงในนิทรรศการเป็นไปได้ยาก เพราะพื้นที่หลายแห่งไม่สามารถเข้าถึงได้ทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และร่างกาย
Shutterstock: พวกเราเห็นงานเกี่ยวกับชาวเควียร์ในภาพของคุณด้วย
Oaklee Thiele: ใช่! ฉันคือเควียร์ แต่หลายครั้งที่ฉันมีปัญหาในการเข้ากับกลุ่มเควียร์ ฉันเป็นคนไบเซ็กชวลที่ชอบความสัมพันธ์ที่ตรงไปตรงมา บางครั้งฉันยังมีบางอย่างในใจว่า “ฉันเควียร์พอหรือยัง”
ฉันต้องเตือนตัวเองเสมอว่าการแต่งงานกับผู้ชายไม่ได้ลบความเป็นไบเซ็กช่วลของฉัน ฉันยังต้องดิ้นรนเพื่อให้รู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับในชุมชนเพศทางเลือก เพราะพื้นที่ของเพศทางเลือกไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างโจ่งแจ้ง ฉันยังไม่เคยไปร่วมงานประเภทเดียวกับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ
ชุมชนเพศทางเลือกต้องเปิดใจรับฟังเสียงจากชุมชนเพศทางเลือกคนพิการด้วย เพราะยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก
เช่น ควรมีพื้นที่ให้รถเข็นสามารถเข้าไปในขบวนพาเหรดได้ ต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการมากขึ้นในแต่ละกิจกรรมของ LGBTQ+
หรือควรมีสถานที่จัดกิจกรรมแบบง่าย ๆ เงียบ ๆ ไม่เปิดเผยจนเกินไป รวมถึงใส่ผู้พิการไปในการโฆษณากิจกรรมของเขาด้วย
ฉันชอบมองจุดที่ตัดกันระหว่างความเป็นเควียร์และความพิการของฉันแล้วใส่ไปในงาน เพราะเมื่อฉันลงมือสร้างงานศิลปะ สิ่งเดียวที่ขัดขวางฉันได้คือจินตนาการเท่านั้น ผลงานที่ฉันสร้างคือพื้นที่เดียวที่ได้ระบายความในใจเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเป็นและพบเจอ
Shutterstock: คุณมาข้องเกี่ยวกับ Creative Fund และ Shutterstock ได้อย่างไร?
Oaklee Thiele: เพื่อนของฉันที่เป็นนักกิจกรรมชาวพิการแชร์ลิ้งก์จากในเฟสบุ๊คมาให้ฉัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่พบว่า เงื่อนไขในการสมัคร The Create Fund นั้นเข้าถึงได้ง่ายมากและไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย
ถ้าเป็นที่อื่นฉันจะพบเงื่อนไขที่ฉันไม่สามารถทำสำเร็จได้ เพราะสภาพร่างกายและค่าใช้จ่ายในการสมัครค่อยข้างสูง
ทุกวันนี้ฉันใช้ศิลปะเป็นดั่งยานพาหนะในการสำรวจและเฉลิมฉลองผ่านความพิการและการเป็นเควียร์ อีกทั้งยังใช้เป็นกระบอกเสียงให้สังคมรับรู้ว่ามีการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้นอยู่กับชุมชมผู้พิการ
Shutterstock: อะไรคือความหวังของคุณในอนาคต ทั้งสำหรับงานศิลปะและตัวคุณเอง?
Oaklee Thiele: ฉันต้องการสร้างงานศิลปะเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ฉันต้องเผชิญ เมื่อกลายเป็นผู้พิการช่วงแรก และนำภาพศิลปะของผู้พิการไปยังอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ศิลปะ และงานเขียนให้ได้ สิ่งนี้จะช่วยให้ฉันมั่นใจในตัวเองในฐานะผู้พิการมากขึ้น
ฉันต้องการให้ผู้พิการพบตัวตนของตัวเองในงานของฉัน เพราะสิ่งนี้ช่วยให้ผู้พิการในสังคมได้มีตัวตนมากขึ้นในกระแสหลัก
อีกเรื่องคือฉันอยากร่วมงานกับผู้พิการคนอื่นในด้านครีเอทีฟ เพราะการได้ร่วมงานกับคนที่เหมือนกับเราคือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันจะได้ไม่ต้องอธิบายสิ่งที่ฉันต้องเจอกับใครอีก
ถ้าองค์กรใดให้ความจริงจังเรื่องผู้พิการและมุ่งมั่นจัดการปัญหาอย่างแท้จริง ฉันก็พร้อมร่วมงานกับเขานะ!
Shutterstock: จากนี้คุณจะทำอะไรต่อไป?
Oaklee Thiele: ฉันตื่นเต้นที่สามีของฉันจะได้ย้ายไปที่ Grand Rapids รัฐ Michigan เดือนสิงหาคมนี้! ที่ ๆ ฉันอยู่ก็สงบสุขดีแต่มันไม่มีศิลปะอะไรให้ฉันเสพเลย มันทำให้ฉันรู้สึกท้อแท้เหมือนกัน
แต่ที่รัฐ Michigan นั้นคนละเรื่องเลย ที่นั่นมีงานศิลปะเกิดขึ้นใหม่เต็มไปหมด ทั้งวิวทิวทัศน์อันสวยงามและทะเลสาบที่เงียบสงบ ฉันมีเพื่อนรักและเพื่อนร่วมงานมากมายรออยู่ ทั้งความสุขและความสงบรออยู่ที่นั่น
มันคงเป็นสถานที่ ๆ ฉันรู้สึกว่าสามารถเติบโตต่อไปได้ แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ไปที่นั่น
บทความโดย : The Create Fund: Disability and the Art of Oaklee Thiele
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24