ความสมดุล (Balance) คือหนึ่งในวิธีการจัดวางองค์ประกอบภาพ เพื่อลดความยุ่งเหยิงและสร้างความรู้สึกมั่นคงให้กับงานออกแบบ เป็นหนึ่งในหลักสำคัญของการออกแบบกราฟิกและศิลปะมาช้านาน มาดูกันดีกว่าว่าจะใช้สิ่งนี้ใน งานกราฟิก อย่างไรให้ทุกคนที่เห็นจะต้องร้องว้าว!
ความสมดุล ในงานกราฟิกคืออะไร?
ความสมดุลหมายถึง การจัดวางองค์ประกอบในงานดีไซน์หรือผลงานศิลปะ โดยปกติดวงตาของเราจะมองหาแต่ความเป็นระเบียบและความมั่นคงในภาพต่าง ๆ เป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่ทำให้เราให้ความสนใจหน้าตาของมนุษย์ หรือสิ่งของที่มีความสมมาตร ด้วยการจัดวางองค์ประกอบในภาพให้มีน้ำหนักทางสายตาที่เท่ากัน เราสามารถสร้างความรู้สึกสมดุลและความมั่นคงให้กับภาพได้ ช่วยให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลายและทำให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
หลักการสร้างความสมดุลปรากฏในงานศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์มากมาย ปัจจุบันหลักการนี้ได้รับการยกระดับและพัฒนาอย่างเป็นทางการจากศิลปินในยุคเรอเนสซองส์
หนึ่งในศิลปินที่โดดเด่นเรื่องการสร้างความสมดุลก็คือ Leonardo da Vinci ที่มีชื่อเสียงจากผลงานการวาดภาพ The Last Supper และภาพ Vitruvian Man ที่เป็นที่รู้จักอย่างมาก
ภาพ Vitruvian Man ของดาวินชี ถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจในคำสอนของสถาปนิกชาวโรมัน Marcus Vitruvius Pollio ซึ่งเขาได้กล่าวว่า การออกแบบสัดส่วนของวิหารควรสะท้อนถึงสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ที่เขาเชื่อว่ามีความสมบูรณ์แบบในตัวเอง
ความสมดุลจำเป็นต้องสมมาตรไหม?
สิ่งแรกที่เข้ามาในหัว หลังได้ยินคำว่าสมดุล อาจเป็นสิ่งของที่มีความสมมาตรเป็นอันดับแรก แต่สมมาตรนั้นเป็นเพียงหนึ่งในความสมดุลทั้งหมดที่พบในศิลปะและการออกแบบเท่านั้น ที่จริงแล้วหลักการยังแบ่งออกได้เป็นอีกหลายประเภทหลัก ๆ ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีผลต่อสมองแตกต่างกันไป เรามาดูกันว่า ความสมดุลมีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง
1.Symmetrical Balance
การสร้าง Symmetrical Balance ในงานศิลปะ ทำได้โดยทำให้องค์ประกอบทั้งสองฝั่งเท่ากัน โดยมีจุดศูนย์กลางของภาพเป็นแกนหลัก ซึ่งจุดศูนย์กลางนั้นอาจเป็นแนวนอน แนวตั้ง หรือแนวเฉียง ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนทั้งสองฝั่งสะท้อนซึ่งกันและกัน
ภาพที่มีความสมมาตรจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สงบ และให้ความรู้สึกที่มั่นคงต่อผู้ชม ทำให้ภาพมีความสวยงามและน่าสบายตา
ตัวอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
คุณสามารถเห็นการใช้ Symmetrical Balance ได้ในหลากหลายงานศิลปะและการออกแบบ ตั้งแต่ภาพวาดสไตล์เรอเนสซองส์ไปจนถึงการออกแบบตัวอักษร ความสมมาตรเป็นรูปแบบความสมดุลที่สร้างภาพที่น่าสนใจได้ในทันที และทำได้ในเพียงไม่กี่ขั้นตอนง่าย ๆ
ในด้านการถ่ายภาพ ความสมมาตรจะมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะกับภาพที่มีองค์ประกอบที่สมมาตรหรือใกล้เคียงกัน เช่น ด้านหน้าอาคาร ภาพบุคคลที่หันหน้าเข้าหากล้อง หรือพื้นผิวที่มีลวดลายซ้ำกัน
ส่วนด้านการออกแบบตกแต่งภายใน จะช่วยสร้างความรู้สึกสงบสุขและเป็นทางการ สามารถใช้โครงสร้างรูปทรงเรขาคณิตจัดสัดส่วนห้อง เช่น หน้าต่างหรือฉากกั้น เพื่อสร้างการจัดกรอบสมมาตรได้
2.Asymmetrical Balance
การจัดวางแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อองค์ประกอบในงานถูกจัดวางแตกต่างกัน ไม่สมมาตรแต่มีน้ำหนักที่เท่ากัน ยังรู้สึกว่าสมดุลทั้งสองฝั่งได้ อาจมีองค์ประกอบสองชิ้นที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันแต่มีรูปร่างต่างกัน หรือองค์ประกอบขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากถูกทำให้บาลานซ์ในจุดเล็ก ๆ หลายจุด
ถ้าเทียบกับความสมมาตร แบบไม่สมมาตรสามารถสร้างภาพที่มีความน่าสนใจได้หลายระดับ แต่โดยทั่วไปจะทำให้เกิดภาพที่มีความมีชีวิตชีวาและมีมิติขึ้นกว่าเดิม เป็นรูปแบบของความสมดุลแบบไม่เป็นทางการที่ต้องใช้การฝึกฝนเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคุ้มค่าแน่นอน
ตัวอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
รูปแบบ Asymmetrical Balance คือความสมดุลรูปแบบไม่เป็นทางการ ที่สามารถสร้างภาพที่มีชีวิตชีวาและมีพลัง แต่ยังคงรักษาความรู้สึกเป็นระเบียบไว้ได้ มักจะใช้กับงานที่ต้องการความรู้สึกเคลื่อนไหว
เช่น ในการออกแบบโปสเตอร์ การสร้างความสมดุลด้วยกราฟิกขนาดเล็กให้ผสมผสานกับกราฟิกขนาดใหญ่ที่ องค์ประกอบกราฟิกจะต้องสมดุลซึ่งกันและกัน โดยองค์ประกอบที่ใหญ่กว่าจะมีน้ำหนัก visual น้อยลงเมื่อถูกวางในลักษณะที่เหมือน “ลอย” อยู่เหนือองค์ประกอบที่เล็กกว่า และองค์ประกอบที่เล็กกว่าจะช่วยถ่วงน้ำหนักให้ทั้งภาพดูสมดุล
3.Radial Balance
หนึ่งในประเภทของความสมดุลที่แปลกตาในงานศิลปะคือ Radial Balance ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายแบบม้วนเกลียวที่พบเห็นได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น หยดน้ำ เปลือกหอย หรือแสงแดด ลวดลายเหล่านี้มักทำให้คุณหลงใหลและสร้างความรู้สึกสงบ
ตัวอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
Radial balance ช่วยให้คุณสร้างองค์ประกอบที่สมดุล ช่วนเน้นเส้นทางและความต่อเนื่องมากกว่าการใช้รูปแบบที่เป็นการแบ่งบล็อก หากเรานำแนวคิดเรื่องเส้นนำสายตามาใช้ การใช้หลักการของ radial balance จะทำให้การนำสายตาเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่เหมือนกับการถูกบังคับให้มองตามลูกศร
เช่น การออกแบบเว็บไซต์ คุณสามารถใช้หลักการนี้นำสายตาผู้ชม ไปสู่จุดศูนย์กลางเพื่อนำทางผู้ใช้ผ่านหน้าของเว็บไซต์ หรือนำไปใช้ในการสร้างโปสเตอร์หรือโลโก้ก็ได้
4.Crystallographic Balance
รูปแบบนี้เกิดขึ้นจากการให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบจำนวนมากอย่างเท่าเทียม เป็นการจัดสมดุลให้กับสิ่งที่ดูเหมือนยุ่งเหยิงให้มีระเบียบ ซึ่งหลายองค์ประกอบที่แตกต่างกันจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว
เพราะสายตามนุษย์ไม่สามารถจับจุดโฟกัสเดียว ในภาพที่มีจุดสุดใจที่หลากหลายได้ ผู้ชมจึงถูกหลอกให้รับสารจากภาพนั้นให้กลายเป็นภาพโดยรวม แม้ว่าจะมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันและหลากหลายปรากฏอยู่ในภาพก็ตาม
ตัวอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป
แนวคิดของ Crystallographic balance คือจะมีองค์ประกอบจำนวนมากเท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ ตราบใดที่มีความสอดคล้องกันบางอย่างระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้น
เช่น ฝูงสัตว์จากภาพมุมสูง เพราะความสม่ำเสมอของสีและท่าทางคล้ายกันของสัตว์จะทำให้เกิดความรู้สึกถึงภาพที่มีความเป็นหนึ่งเดียว
การจัดวางองค์ประกอบในรูปแบบที่มีระยะห่างเท่า ๆ กัน เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถสร้างความรู้สึกของ Crystallographic balance ได้
ตัวอย่างภาพเพิ่มเติมจากการใช้เทคนิคเหล่านี้
ทุกสิ่งมีที่ของมันเอง และการใช้งานก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม เพื่อให้ผลงานสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน และผู้ชมสามารถเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการถ่ายทอดได้ในทันที เพราะทุกองค์ประกอบล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสมดุลและความน่าสนใจให้กับงาน เทคนิคเหล่านี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และทำให้ผลงานของคุณน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น หวังว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยสมดุลและความสวยงาม!
บทความโดย : Balance in Art: What It Is and Why It’s So Important
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24