ถ้าเรามีบ้านสองหลังเหมือนกัน มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน มีธรรมชาติรายล้อมเหมือนกัน แต่บ้านหลังที่ 1 ใช้เวลาขายแค่ 1-3 สัปดาห์ แต่บ้านหลังที่ 2 สามเดือนผ่านไปก็ไม่สามารถขายได้ ความแตกต่างของทั้งสองอย่างก็คือภาพ “ธุรกิจอสังหาฯ” ทุกอย่างเปลี่ยนได้ด้วยรูปภาพ
ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคดิจิทัล ปัจจุบันนั้นความสำเร็จของการขายบ้านไม่ได้เริ่มมาจากมีลูกค้าเข้ามาดูบ้าน แต่เริ่มจากการกดคลิกเยี่ยมชมบ้านในโซเชียลมีเดียแล้ว
ข้อมูลดิจิทัลกับภาพ ธุรกิจอสังหาฯ บอกอะไรกับนักการตลาด?
เส้นทางการซื้อบ้านในยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จากที่ผู้ซื้อเคยใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ขับรถเยี่ยมชมย่านต่าง ๆ เข้าร่วมงานเปิดโครงการหมู่บ้าน
แต่ปัจจุบันการหาบ้านสักหลังมักเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาที่เงียบสงบ และมักเป็นตอนดึกเพื่อเลื่อนดูรายชื่ออสังหาริมทรัพย์ผ่านสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต งานวิจัยจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (National Association of Realtors) เปิดเผยว่า 97% ของผู้ซื้อบ้านเริ่มการค้นหาทางออนไลน์ ทำให้ความประทับใจแรกผ่านสื่อดิจิทัลสำคัญกว่าที่เคย
ภายในเวลาเพียง 20 วินาทีหลังดูรายชื่ออสังหาริมทรัพย์ผ่านโลกออนไลน์ ผู้ซื้อที่มีศักยภาพสูงจะตัดสินใจเบื้องต้นเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นในช่วงเวลาสั้น ๆ คุณภาพและการนำเสนอภาพถ่ายกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินได้ว่าบ้านหลังนั้นจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น หรือถูกเลื่อนผ่านไปท่ามกลางรายชื่ออสังหาริมทรัพย์จำนวนมากอย่างรวดเร็ว
คุณภาพของภาพถ่ายคือพลัง
ผลกระทบจากการใช้รูปภาพคุณภาพสูงในการตลาด มีผลต่อความสำเร็จของวงการอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าแบบปากต่อปาก เพราะค่าสถิติและงานวิจัยจากการสำรวจรายชื่ออสังหาฯกว่า 200,000 โครงการ พบว่าอสังหาฯที่มีภาพถ่ายระดับมืออาชีพที่มีคุณภาพสูง มีโอกาสขายได้สูงกว่าภาพถ่ายมือสมัครเล่นถึง 32%
แต่ผลกระทบไม่ได้จำกัดเพียงแค่ราคาขายเท่านั้น อสังหาริมทรัพย์ที่มีภาพถ่ายมือระดับมืออาชีพมักขายได้เร็วขึ้น ดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อที่จริงจังมากขึ้น และสร้าง Engagement ทางออนไลน์อย่างมหาศาล ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ขายได้เร็วขึ้น 30%
ตัวอย่างจริงจากเหตุการณ์จริงก็คือ เรื่องราวของบ้านสไตล์วิกตอเรียในนิวอิงแลนด์ บ้านหลังนี้อยู่ในตลาดอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสองเดือน โดยภาพที่โชว์ใช้ภาพถ่ายจากสมาร์ตโฟนที่ไม่สามารถถ่ายทอดเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของบ้านได้เลย แต่เมื่อมีการอัปเกรดภาพถ่ายที่สามารถเผยให้เห็นความงดงามที่แท้จริง เช่น บันไดไม้แกะสลักที่ละเอียดอ่อน แสงที่ลอดผ่านกระจกสีดั้งเดิม และความงามของพื้นที่ภายในบ้าน บ้านหลังนี้ได้รับข้อเสนอหลายรายการภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ พบว่าวิธีการซื้อบ้านโดยทั่วไปจะพบกับเหตุการณ์ดังนี้
การนำเสนอภาพถ่ายและความสำเร็จในการขายอสังหาริมทรัพย์ มีความเกี่ยวข้องที่ลึกซึ้งกว่าความสวยงาม งานวิจัยด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและประสาทวิทยา ได้เผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลภาพของสมอง เมื่อต้องตัดสินใจซื้อสิ่งที่สำคัญว่า อารมณ์ในสมองของผู้ซื้อจะถูกกระตุ้นอย่างมาก เมื่อได้เห็นรูปภาพคุณภาพสูงที่ช่วยให้พวกเขาจินตนาการถึงการใช้ชีวิตในบ้านหลังนั้นได้อย่างชัดเจน
- รูปภาพคือองค์ประกอบสำคัญในการขายออนไลน์ทุกประเภท
- ผู้ใช้งานออนไลน์จะเสียเวลาไปกับการดูภาพ 60% และเสียเวลาอ่านคำบรรยายประกอบภาพ 20%
- ข้อมูลอสังหาฯ ที่มีรูปประกอบมากกว่า 20+ ภาพจะมียอด Engagement มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
การซื้ออสังหาฯ จากในแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับยุคก่อน ปัจจุบันมีผู้ซื้อจำนวนมากที่ตัดสินใจซื้อบ้านผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก ทำให้ภาพถ่ายคุณสูงและการใช้เทคโนโลยี VR/AR เข้ามามีบทบาทอย่างมาก
การทัวร์บ้านเสมือนจริงที่สร้างจากภาพถ่าย ช่วยผู้ซื้อที่จริงจังคัดกรองและลดความจำเป็นในการเข้าชมสถานที่จริง รายชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่มีการทัวร์เสมือนจริงครบถ้วน มักได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับรายชื่อที่ไม่มี นอกจากนี้ผู้ซื้อยังรายงานว่าพวกเขารู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นการนำเสนอรูปภาพที่มีคุณภาพสูง
ศิลปะแห่งการเล่าเรื่องผ่านภาพ
การถ่ายภาพอสังหาริมทรัพย์เป็นมากกว่าการถ่ายภาพพื้นที่เปล่า แต่เป็นการเล่าเรื่องราวห้องแต่ละห้อง ซึ่งมีโอกาสที่จะนำเสนอไม่ใช่เพียงแค่ลักษณะทางกายภาพ แต่รวมถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ซื้อสามารถจินตนาการวิธีอยู่อาศัยได้
- ภาพถ่ายของห้องครัวในแสงช่วงเช้าแสงอบอุ่น จินตนาการถึงมื้อเช้ากับครอบครัวในอนาคต
- ภาพถ่ายของโฮมออฟฟิศ ที่บ่งบอกได้ว่าการทำงานที่นี่จะมีประสิทธิภาพหรือไม่
- ภาพถ่ายของลานกว้างบริเวณหลังบ้าน ชวนให้นึกถึงกิจกรรมยามว่างช่วงเย็นกับเพื่อนหรือครอบครัว
ผู้ที่ชื่นชอบในอสังหาริมทรัพย์รู้ดีว่าทุกบ้านมีเรื่องราวที่รอคอยการเล่า หน้าที่ของช่างภาพสายอสังหาริมทรัพย์คือการถ่ายทอดเรื่องราวนั้นผ่านภาพถ่าย ไม่ว่าจะเป็นแสงยามเช้าที่สาดส่องผ่านหน้าต่างห้องครัว มุมอ่านหนังสืออันแสนอบอุ่นใต้บันได หรือการเชื่อมโยงของพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างห้องต่าง ๆ เป็นต้น
ภาพถ่ายอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด มักคำนึงถึงจังหวะและเวลา ข้อได้เปรียบของฤดูกาล และการปรากฏของแสงธรรมชาติ
- ฤดูใบไม้ผลิ: ภาพถ่ายมักเน้นบริเวณสวนที่กำลังเบ่งบานและแสงธรรมชาติที่สาดส่องผ่านหน้าต่าง
- ฤดูร้อน: มักใช้ช่วงเวลา “Golden Hour” เพื่อเน้นพื้นที่กลางแจ้งให้โดดเด่น
- ฤดูใบไม้ร่วง: สีสันและบรรยากาศที่อบอุ่น จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย
- ฤดูหนาว: ช่วงเวลายามเย็นที่ให้แสงสลัวจะมีเสน่ห์อย่างมาก เชิญชวนให้มีความสุขในช่วงก่อนจบวัน
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมและการนำเสนอบรรยากาศตามฤดูกาล สามารถยกระดับภาพถ่ายให้เล่าเรื่องราวของบ้านได้อย่างมีพลังและน่าดึงดูดใจ
ช่างภาพอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มักเจอข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดในภาพถ่ายอสังหาริมทรัพย์ ก็คือการจัดแสงที่ไม่ดี พื้นที่ที่ดูรก และมุมถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม แต่สิ่งที่พลาดที่สุดคือการไม่สามารถนำเสนอคุณสมบัติที่โดดเด่นของบ้านในภาพถ่ายได้
ตัวอย่างเช่น ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เจ้าหนึ่งถ่ายภาพบ้านหรูอีกครั้งหลังจากที่ทรัพย์สินนี้อยู่ในตลาดมาหลายเดือน โดยที่ภาพถ่ายเดิมพลาดการเน้นจุดเด่นของวิวมหาสมุทรจากห้องนอนหลัก ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดของบ้าน! ภาพถ่ายใหม่ได้เน้นย้ำถึงวิวนี้ และบ้านหลังดังกล่าวก็ขายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการขายอสังหาริมทรัพย์ ภาพถ่ายที่นำมาใช้ต้องมีปัจจัยดังต่อไปนี้
จำนวนภาพที่แนะนำ: 22-27 ภาพ สำหรับบ้านเดี่ยว (Single-family homes)
ความละเอียดสูง: ควรมีขนาดภาพอย่างน้อย 2000×1500 พิกเซล เพื่อให้ได้รายละเอียดที่คมชัด
เทคนิคการเล่นแสงมืออาชีพ: ช่วยปรับปรุงบรรยากาศและความสมดุลของแสงในภาพ
การถ่ายภาพมุมกว้าง: เพื่อแสดงพื้นที่ห้องทั้งหมด และสร้างความรู้สึกโปร่งโล่ง
ความสม่ำเสมอของอุณหภูมิสี: เพื่อให้ภาพทั้งหมดดูกลมกลืนและดึงดูดสายตา
ภาพถ่ายบรรยากาศรอบบ้านและวิถีชีวิตในชุมชน: เพิ่มความดึงดูดใจโดยแสดงให้เห็นถึงบริเวณใกล้เคียงและสิ่งอำนวยความสะดวก
และถ้าคุณใช้รูปภาพเหล่านี้บนโซเชียลมีเดียอย่างถูกต้อง จะสามารถเข้าถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพสูงได้อีกนับพันคน ผ่านการแชร์แบบออร์แกนิค ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มระดับการมองเห็นในรูปแบบที่แตกต่างกัน
Instagram: อสังหาริมทรัพย์ที่มีภาพถ่ายน่าดึงดูดสายตา จะมีการบันทึกและแชร์เพิ่มขึ้นถึง 37%
Pinterest: อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูงจะถูกปักหมุดซ้ำ (Repinned) มากขึ้นถึง 236%
Facebook: ประกาศขายบ้านที่มีภาพถ่ายคุณภาพสูง จะสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นถึง 71%
LinkedIn: โพสต์อสังหาริมทรัพย์แบบหรูหรา ที่ใช้รูปภาพจากมืออาชีพจะได้มีคนทักเข้ามาสอบถามเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
อย่ามองข้ามพลังของ “การแชร์” และ “การกดไลก์” ในโซเชียลมีเดียโดยเด็ดขาด
ผลกระทบของการถ่ายภาพในวงการอสังหาริมทรัพย์ มีผลกระทบมากกว่าแค่การขายเพียงครั้งเดียว ภาพถ่ายคุณภาพสูงจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของทรัพย์สินนั้น ๆ ความทรงจำที่เคยอยู่อาศัยในสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในย่านและชุมชนตลอดไป
อย่าปล่อยให้รูปภาพของคุณเป็นเรื่องล้อเล่น เพราะภาพอสังหาฯมีมูลค่าสูงกว่าที่คุณคิดไว้มากมายหลายเท่า การลงทุนในภาพถ่ายอสังหาริมทรัพย์ จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่ไม่เพียงแค่ในทันที แต่ยังรวมถึงการจดจำและการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้ซื้ออีกด้วย เพราะคุณไม่เพียงแค่กำลังขายบ้าน แต่คุณกำลังขายความฝันที่จะกลายเป็นบ้านแห่งอนาคตให้กับใครสักคน
Imgix เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพภาพถ่ายสำหรับการใช้งานออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเครื่องมือที่ครบครัน เช่น การปรับแต่งสี, การปรับขนาด, การตัดแต่ง, การบีบอัด และการเพิ่มฟิลเตอร์ต่าง ๆ ทำให้รูปภาพของคุณดูน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมมากขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณ
สอบถามข้อมูลการใช้งานภาพเพิ่มเติมได้ที่
Inbox : https://bit.ly/3RtAnGn
LINE Official Account : https://bit.ly/3Rz00FU
Instagram : https://bit.ly/3qi0VOR
Website : https://number24.co.th
บทความโดย : The Power of Images in Real Estate: What the Data Reveals
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24