ถ้าคุณไม่ใช่นักออกแบบ การพูดคุยกับนักออกแบบจึงเป็นเรื่องยากในบางครั้ง! แล้วต้องทำอย่างไรให้เราสามารถสื่อสารกับนักออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าเราจะไม่มีทักษะงานออกแบบก็ตาม? มาทำความเข้าใจหลักการ บรีฟงาน นี้ไปด้วยกัน
บรีฟงาน อย่างไรให้เข้าใจทั้งทีมและทำงานอย่างราบรื่น?
เมื่อเริ่มต้นโปรเจกต์การออกแบบ การสื่อสารกับนักออกแบบในทีมถือเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด การให้พวกเขาเข้าใจวิสัยทัศน์ของคุณอย่างชัดเจนคือกุญแจที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในภายหลัง
พยายามแบ่งปันไอเดีย แรงบันดาลใจ และตัวอย่างการออกแบบที่คุณชื่นชอบ พวกเขาสามารถทำให้วิสัยทัศน์ของคุณกลายเป็นจริงได้ แต่สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องเข้าใจวิสัยทัศน์นั้นอย่างแท้จริง! อย่าปล่อยให้ไม่เข้าใจจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
แล้วคุณต้องส่งอะไรให้กับนักออกแบบก่อนเริ่มทำงานร่วมกัน? การแบ่งปันข้อมูลและไฟล์งานที่จำเป็นตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจกต์ จะช่วยให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น!
1.Logo ทุกประเภทที่เกี่ยวข้อง (หรืออาจเกี่ยวข้อง)
โลโก้เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงทุกสิ่งที่แบรนด์ของคุณเป็น การส่งโลโก้ในทุกเวอร์ชันที่มีความละเอียดสูงให้กับนักออกแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งควรมีรูปแบบการวางตำแหน่งและสีที่แตกต่างกันด้วย
2. แบรนด์ไกด์หรือคู่มือแบรนด์
หากคุณมีคู่มือแบรนด์อยู่แล้ว อย่าลืมแชร์ให้นักออกแบบรับรู้ คู่มือนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของงานออกแบบ ซึ่งมีตั้งแต่ฟอนต์ ชุดสี(Color Palette) องค์ประกอบภาพ และแนวทางการออกแบบทั่วไป การมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักออกแบบสามารถเข้าใจภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
3.มู้ดบอร์ด (Mood Boards)
การสร้างมู้ดบอร์ด (Mood Board) ช่วยกำหนดสไตล์และอารมณ์สำหรับโปรเจกต์ของคุณ มู้ดบอร์ดคือการรวบรวมภาพ สี ลวดลายวัสดุและรูปแบบฟอนต์ไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางอ้างอิง Visual สำหรับนักออกแบบของคุณ หรือทุกทีมที่เกี่ยวข้อง
4.สิ่งของเท่าที่มี
การส่งของที่เรามีไปให้นักออกแบบดู อาจก่อให้เกิดไอเดียบางอย่างที่นอกเหนือความคิดของคุณได้ เช่น นามบัตร ของพรีเมียม และป้ายโฆษณา เป็นต้น สิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการออกแบบใหม่จะสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ชมของคุณคุ้นเคยและจดจำได้อยู่แล้ว!
5. ความคิดในหัวตัวเอง!
ฟังไม่ผิด ถ้าคุณอยากให้นักออกแบบเข้าใจคุณได้ดีที่สุด คุณต้องให้พวกเขา “เข้าใจความคิดคุณให้มากที่สุด” โดยการแสดงสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาดู เช่น เว็บไซต์ที่คุณรู้สึกใช้งานง่าย โพสต์ในโซเชียลมีเดียที่คุณชื่นชอบ โบรชัวร์ที่ดึงดูดสายตาคุณ หรือแม้แต่ชุดสีที่คุณคิดว่าน่าสนใจ
เมื่อคุณเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำงานร่วมกับนักออกแบบกราฟิกมากขึ้น และสามารถสื่อสารความชอบของคุณได้ดีแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลงลึกในรายละเอียดว่า คุณต้องการอะไรจากพวกเขาสำหรับโปรเจกต์ของคุณ จากนั้นจะทำอย่างไรต่อไป?
- มอบบรีฟ: แสดงภาพรวมว่าสิ่งที่แคมเปญจะทำคืออะไร มีธีมอะไรเป็นองค์ประกอบ เช่น ความหรูหรา ความสนุกสนาน หรือความยั่งยืน
- กลุ่มเป้าหมาย: ลูกค้าของเราคือใคร ชอบความหรูหราหรือสบาย ๆ มีผลต่อความสนใจสินค้าทั้งออนไลน์และหน้าร้าน หรูมากไปลูกค้าสาย Casual จะไม่เข้า ธรรมดามากไปสายกระเป๋าหนักก็จะไม่เข้าเช่นกัน
- สไตล์และโทนสี: เวลาลูกค้าหรือผู้ชมเห็นผลงานของคุณ ควรจะให้พวกเขารู้สึกอย่างไร? เช่น แบรนด์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็ควรใช้สีเขียวและสีน้ำตาล เป็นต้น
- เป้าหมายและ KPI: แคมเปญนี้เราหวังผลอย่างไร เช่น เพิ่มคนเข้ามาดูเว็บไซต์ บูทการมองเห็น หรือมีลูกค้าเข้ามาซื้อของมากขึ้น เป็นต้น
- มอบ Timeline: ระยะเวลาในการดำเนินแคมเปญเป็นสิ่งสำคัญ
- รีวิวผลงานโดยรวมทั้งหมด: ก่อนจะส่งงานแก่ลูกค้า ทุกคนในทีมควรรีวิวผลงานทั้งหมดพร้อมกัน โดยการนำผลงานที่ทำมาเปิดดูพร้อมกันให้เห็นภาพรวม เพื่อหาจุดสังเกตว่าผลงานที่ทำไปมีจุดบกพร่องหรือไม่สอดคล้องกับงานหรือไม่ เพื่อที่จะแก้ได้ทันเวลา
นี่คือขั้นตอนพื้นฐานในการบรีฟนักออกแบบ ถึงคุณจะไม่ใช่นักออกแบบก็ตาม การบรีฟที่ดีคือการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงประเด็น ช่วยลดความเข้าใจผิดและเพิ่มโอกาสในการได้งานออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
ถ้าคุณมีบรีฟหารูปภาพที่ต้องการอยู่ในใจ สามารถบรีฟพวกเรา Number 24 x Shutterstock ได้ที่
Inbox : https://bit.ly/3RtAnGn
LINE Official Account : https://bit.ly/3Rz00FU
Instagram : https://bit.ly/3qi0VOR
Website : https://number24.co.th
บทความโดย : How to Work with Designers—When You’re Not a Designer
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24