The Create Fund: ทำไมต้องสอนเด็กถ่ายภาพ?

คุณ Ana Luzes จะมาแบ่งปันเรื่องราวผ่าน The Create Fund ว่าทำไมการสอนเด็กถ่ายภาพถึงสำคัญ และทำไมการเป็นช่างภาพต้องไม่ใช่แค่การถ่ายทอดเรื่องราว

The Create Fund การแบ่งปันที่มากกว่าเรื่องราว

สำหรับคุณ Ana Luzes การถ่ายภาพเรื่องราวในประเทศบราซิลนั้นสำคัญพอ ๆ กับการสอนให้เด็ก ๆ หัดถ่ายภาพ

“การปล่อยให้เด็กเหล่านี้ได้มีความฝัน และสร้างเรื่องราวของเขาเอง จากภาพที่พวกเขาถ่ายเป็นสิ่งจำเป็น” เธอกล่าว

เป็นเวลากว่า 5 ปีที่คุณ Luzes กลายเป็นช่างภาพมืออาชีพ และ Passion ของเธอในการถ่ายภาพบุคคลกลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่ใช้นำเสนอวิถีชีวิตของชาวบราซิล ความเป็นจริงที่พวกเขาต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน

แต่คุณ Luzes กล่าวว่าการสอนเด็กถ่ายภาพก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเธอให้ความจริงจังกับมันขั้นสุด ถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องทำก็ตาม

การได้เป็นคนที่มอบความรู้สึกอิสระให้กับเด็ก ได้เข้าใจมุมมองต่าง ๆ และได้ถ่ายทอดวิถีชีวิตจริง ๆ ในชุมชนให้ทั่วโลกได้รับรู้ เป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกดีที่อธิบายไม่ถูกจริง ๆ 

และต่อจากนี้จะเป็นการถ่ายทอดบทสนทนาที่จะทำให้ได้รู้จักมุมมองจาก Ana Luzes มากขึ้นกว่าเดิม

——————————————

Shuttertock: ในโปรไฟล์ของ Shutterstock คุณเขียนว่า “ค้นหาภาพถ่ายที่มุ่งตรงสู่อิสระภาพ” มันหมายความว่าอย่างไร?

Ana Luzes: อิสระไม่มีจุดหมายปลายทาง แต่เป็นเพียงเส้นทาง ฉันเชื่อว่ารูปภาพที่มาจากความคิดอิสระสามารถนำเราไปสู่เส้นทางนั้นได้

ฉันเห็นเวลาเด็ก ๆ เหล่านี้มองที่รูปของฉันแล้วพูดว่า “คนนั้นเหมือนหนูเลย” มันทำให้เรารู้สึกว่าเขารู้สึกได้ปลดปล่อย ได้เป็นส่วนหนึ่งของอะไรสักอย่าง

รูปภาพสามารถนำพาอิสระไปได้ทุกที่ ฉันกำลังมองหารูปภาพที่ทำให้ฉันรู้สึกได้รับการเยียวยา สร้างความหวัง และได้รับการปลดปล่อย

Shutterstock: ที่คุณพูดว่าได้รับการเยียวยาและปลดปล่อย มันเป็นแบบไหน? อะไรคือภาพที่ทำให้คุณรู้สึกถึงการปลดปล่อย?

Ana Luzes: ช่างภาพแห่งการปลดปล่อยคือสิ่งที่เราใช้เรียกตัวเองมาตลอด เราอยู่ในโลกที่มีหลากหลายวัฒนธรรม ทุกวัฒนธรรมมีเอกลักษณ์และเราอาจรู้จักมันแค่ผ่านรูปภาพ

ฉันว่าทุกภาพมีเอกลักษณ์ของมันเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับมุมมอง ความคิดสร้างสรรค์ และการเปิดรับทางวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่น

Shutterstock: ภาพถ่ายแบบไหนที่คุณถ่ายได้ไม่มีเบื่อ

Ana Luzes: สำหรับฉัน ภาพที่บอกเล่าเรื่องราวได้โดยเฉพาะภาพบุคคล เป็นลักษณะการถ่ายภาพที่เล่าเรื่องราวได้ดีและใช้เวลาประมาณหนึ่งกว่าจะสำเร็จ

ฉันพบเจอคนมากหน้าหลายตาระหว่างการทำงานมากมาย และกลายเป็นเพื่อนสนิทในชีวิตจริง เป็นอาชีพธรรมดาที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา

Shutterstock: คุณเป็นมืออาชีพอยู่ในวงการนี้มานานแค่ไหน? นี่คืองานประจำเลยหรือเปล่า?

Ana Luzes: ฉันทำงานนี้มา 5 ปีแล้วจนกลายเป็นอาชีพหลัก ฉันสอนเด็ก ๆ และวัยรุ่นในชุมชนรอบนอกถ่ายภาพ แล้วฉันก็ค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของชาวสมัลในบราซิล รวมถึงงานเขียนบางส่วนอีกด้วย

Shutterstock: ชุมชนรอบนอกหมายถึงอะไร? แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าการสอนถ่ายภาพให้เด็ก ๆ ในชุมชนถึงสำคัญ

Ana Luzes: ชุมชนรอบนอกก็คือสถานที่ที่ทุกคนบริเวณนั้นมีรายได้ต่ำ ส่วนใหญ่จะได้รับการศึกษาน้อยและขาดปัจจัยพื้นฐาน เป็นที่ถูกมองข้ามและมักมีความรุนแรงเกิดขึ้น

การสอนเด็กเหล่านี้ถ่ายรูป ทำให้พวกเขาได้ระบายความรู้สึกผ่านรูปภาพได้ กลายเป็นอีกมุมมองที่เราจะได้เห็นในมุมต่าง ยิ่งเราได้ประสบปัญหากับสิ่งใดมากเท่าใด มันจะออกมาผ่านรูปภาพเท่านั้น หากพวกเขาบันทึกเรื่องราวและความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสลัมบราซิลมากขึ้น ความจริงของการใช้ชีวิตที่นี่จะปรากฎออกมาชัดเจนขึ้นในสายตาชาวโลก

การสื่อสารผ่านรูปภาพ เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ศิลปะสามารถนำพาความฝันและมุมมองของชีวิตออกไปสู่โลกกว้าง ขีดเขียนเส้นทางของตัวเอง

Shutterstock: เป็นการตอบที่ทรงพลังมาก! แล้วคุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่คุณน่าจะมีคนแนะนำตั้งแต่แรกๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพ

Ana Luzes: บนโลกนี้มีเรื่องราวเหลือเชื่ออีกมากมายนับไม่ถ้วน ที่สามารถเล่าผ่านรูปภาพได้ในรูปเดียว แล้วก็เคล็ดลับทั้งหมดของการถ่ายภาพกว่า 99% อยู่ที่แสงและองค์ประกอบที่ดี

Shutterstock: คุณช่วยขยายความตรงที่ “เรื่องราวเหลือเชื่ออีกมากมายนับไม่ถ้วน ที่สามารถเล่าผ่านรูปภาพได้ในรูปเดียว” ให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?

Ana Luzes: การถ่ายภาพให้อิสระในการเล่าเรื่องแก่เรา 

คุณ Chimamanda Ngozi Adichie นักเขียนชาวไนจีเรี่ยนเคยเขียนในหนังสือ The Danger of Single Story ว่า​ “หนึ่งเรื่องราวจะสร้าง Stereotype เพียงหนึ่ง ซึ่งปัญหาของมันไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เล่าเรื่องที่โกหก แต่คือเรื่องราวนั้นมันยังไม่จบ หนังเรื่องหนึ่งจะนำเสนอเรื่องราวได้แค่หนึ่งเดียว”

ฉันเชื่อว่านักเขียนหมายถึงพวกเราที่เป็นผู้บริโภค เสพสื่อแมสเพียงอย่างเดียวก็จะเชื่อแค่รายละเอียดที่อยู่ในนั้น

ประเทศบราซิลเป็นประเทศของฟุตบอลและการเต้นแซมบ้า แต่ก็ยังมีวัฒนธรรมอีกมากมายและศาสนาที่หลากหลาย สิ่งที่เรานำเสนอต่อโลกนี้ก็คือความจริงที่ถูกต้อง และมีความรับผิดชอบต่อการนำเสนอ

ฉันชอบที่สามารถเล่าเรื่องราวของตัวเองได้ ฉันชอบที่จะพูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของฉัน

Shutterstock: หลังจากทำสิ่งนี้มาหลายปี ความท้าทายที่ทำให้มุมมองชีวิตของคุณเปลี่ยนไปคืออะไร หรืออะไรที่ผลักดันให้คุณไปข้างหน้า?

Ana Luzes: ฉันเคยผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ มามากมายในวงการถ่ายภาพ หนึ่งในนั้นก็คือการเข้าสู่วงการโดยการเป็นผู้หญิงผิวสี ซึ่งในเมืองของฉันไม่ค่อยต้อนรับคนสไตล์นี้ ทำให้การเข้าถึงสถานที่บางอย่างเป็นไปได้ยาก

ฉันเรียนจบการถ่ายภาพจากมหาลัย Vila Velha ในปี 2020 เป็นปีที่โรคระบาดเกิดพอดี ลองคิดดูสิว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะได้งานในช่วงที่ทุกอย่างโดน Lock down ปีนั้นเป็นปีที่ท้าทายทุกอย่าง ทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปเลย

ในปี 2021 ฉันได้รู้จักสถาบัน Serenata d’ Favela ซึ่งเป็นองค์กรที่นำเสนองานด้านศิลปะและวัฒนธรรมในชุมชนด้อยโอกาส ฉันเริ่มสอนถ่ายภาพให้เยาวชนในชุมชนเหล่านี้ และได้ถ่ายทอดชีวิตประจำวันของผู้คนในพื้นที่อีกด้วย

ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ฉันเข้าใจถึงพลังของภาพถ่าย ฉันเลยถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องและได้ถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวมากมาย และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเอง

Shutterstock: ทำไมคุณคิดว่าการถ่ายภาพเป็นสิ่งสำคัญ?

Ana Luzes: การถ่ายภาพสำคัญเพราะมันเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดของการมีอยู่ของเรา เปรียบเหมือนการบอกว่า “ฉันเคยอยู่ตรงนี้ ในโลกที่กว้างใหญ่นี้”

มันนำพาข้อมูลในปัจจุบันไปสู่สถานที่ที่เราไม่เคยคาดคิด เป็นการเติมเต็มประวัติศาสตร์และบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้

Shutterstock: ใช่เลย! แล้ว The Create Fund ส่งผลต่อคุณอย่างไร?

Ana Luzes: มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่ได้พาภาพถ่ายที่ฉันรักมากไปสู่สถานที่ใหม่ ๆ พร้อมกับเป้าหมายที่สอดคล้องกับความเชื่อของฉัน—ภาพที่สะท้อนความเป็นจริงอย่างแท้จริง

ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มีความสำคัญขนาดนี้ มีทั้งคนให้คำปรึกษา ฉันได้เรียนรู้ว่าภาพถ่ายของฉันสามารถนำไปใช้ในการตลาดและโฆษณาอีกด้วย

Shutterstock: แล้วการถ่ายรูปมีผลต่อคุณอย่างไร?

Ana Luzes: การถ่ายภาพกลายเป็นหนึ่งในเสียงของฉัน ที่สามารถพูดกับคนทั้งโลกได้ ฉันเคยพูดกับนักเรียนว่าทุกภาพที่ฉันถ่าย ก็เหมือนกับฉันถ่าย Selfie นั่นแหละ เพราะทุกรูปต้องมีเรื่องราวเสมอ

Shutterstock: หมายความว่าไงที่คุณว่า “ทุกภาพที่ฉันถ่ายก็เหมือนกับที่ฉันถ่าย Selfie?”

Ana Luzes: คุณ Henri Cartier Bresson ช่างภาพชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า การถ่ายภาพคือการนำสายตาและหัวใจมารวมกัน ในการภาพถ่าย มันต้องมีบางสิ่งในภาพที่ส่งผลถึงตัวคุณเสมอ

เรื่องราวของเรา—ทุกสิ่งที่เราได้ประสบพบเจอ วัฒนธรรมของเรา—ส่งผลโดยตรงต่อวิธีที่เรามองตัวเองในฐานะมนุษย์ ดังนั้นเมื่อฉันบอกว่าทุกภาพบุคคลคือภาพตัวเอง ฉันหมายความว่า มุมมองที่ฉันมีต่อโลกใบนี้ได้ปรากฏอยู่ในภาพเหล่านั้น เหมือนลายเซ็นของฉัน

ตัวอย่างเช่น ช่างภาพสองคนที่ถ่ายภาพวัตถุเดียวกัน อาจสร้างภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ชีวิตและพื้นเพที่แตกต่างกัน

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

บทความโดย : The Create Fund: An Interview with Ana Luzes

เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24